ฝ่าลมฝน จากรังสิตสู่ภูทับเบิก 27/1/18 388.4km
ผมออกจากรังสิตเวลา3:58น.(จับเวลาหน้าโรงพยาบาลปทุมเวช)ปั่นไปตามถนนพหลโยธิน ผ่านเมืองสระบุรีเวลา6:54น.ถึงแยกพุแค แต่ทางตรงไปเพชรบูรณ์นั้นปิดผมต้องไปทางซ้ายอีก500เมตร เพี่อกลับรถลับรถจากนั้นเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข21
เวลา7:11น.ถึงช่องเขาขาด ท้องฟ้าวันนั้นเป็นสีเทา ฝนคงตกแน่ ผมมาจอดซื้อน้ำจุดแรกที่แยกม่วงค่อม จังหวัดลพบุรี เติมน้ำเสร็จออกเดินทางต่อ แล้วสักพักฝนก็ได้โปรยลงมา รถที่ล้างมาหมดความหมาย เวลา9:59น. เข้าเขตอำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ฝนตกยังตกลงอย่างต่อเนื่องและหนักขึ้น ตอนนี้เปียกไปทั้งตัวแล้ว โซ่ส่งเสียงดังครวญครางออกมาตอน ตกอยู่พักใหญ่ ฝนจึงหยุดลง ทิ้งไว้เพียงถนนเปียกๆที่มีแอ่งน้ำขังเต็มไปหมด ผมยังคงปั่นต่อไปอย่างไม่ลดกำลัง เวลา11:10น. ผ่านทางแยกเข้าอำเภอวิเชียรบุรี ผมมาหยุดเดิมน้ำครั้ที่สองที่ พึงสามพัน ล้างหน้าล้างตาเอาทรายออกสักหน่อย จากนั้นเดินทางต่อ ประมาณบ่ายโมงฝนได้ตกลงมาอีกรอบ คราวนี้ตกหนักเลยครับ แต่ยังไงก็ต้องลุยต่อ เวลา14:39น. ผ่านเมืองเพชรบูรณ์ เวลา16:00น. แวะเติมน้ำครั้งที่สามก่อนถึงแยกที่ทางหลวงหมายเลข12มาตัด ซึ้งครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะจอดเพราะเหลือระยะทางอีกประมาณ40kmก็จะถึงยอดภูทับเบิก เตรียมน้ำและจัดเจงเจลพลังงานให้พร้อมอีกครั้งเพราะช่วงขึ้นเขามือไม้เราจะปล่อยออกมาหยิบจับอะไรลำบาก จากนั้นก็ไปต่อเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข12
ปั่นมาอีกสักพักจนเจอสี่แยก ผมเลี้ยวขวาไปตามทางหลวง2372 เวลา16:55น.ถึงทางแยกขึ้นภูทับเบิก ทางหลวงหมายเลข2331 ผมเลี่ยวซ้ายมุ่งหน้าขึ้นเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ปั่นขึ้นภูทับเบิกตอนมีแสงสว่างครั้งก่อนหน้านั้นมาถึงตรงนี้ก็มืดแล้ว วันนี้มาด้วยเฟือง12-28กับจานหน้า50/34ผมคิดในใจว่า “ด้วยเฟือง28คงไม่มีปัญหาอะไรกับเขาลูกนี้ เพราะเคยเอา25ขึ้นมาแล้ว” ขี่ขึ้นไปได้สักพักทางเริ่มชันขึ้นและมองเห็นถึงทางข้างหน้าที่รออยู่ ตึงขาสุดๆกดแทบไม่ลง “จะขอยืนยันยืนยัน……” เรียกได้ว่าแทบไม่ได้นั่ง ผมคิดในใจว่าครั้งก่อนนั้นถ้ามองเห็นทางด้วยเฟือง25คงจะขึ้นไม่ไหวแน่55555 เอาล่ะสู้หน่อยอีกไม่ไกลแล้ว
เหลือระยะทางอีกประมาณ5km ผมรู้สึกว่ายางหลังแบน ” เชี่ยเอ้ย!! ” ตอนนั้นผมตัดสินใจลุยต่อไม่อยากเอาเท้าแตะพื้น ฝืนบดยางต่อไป ผิวทางก็ลื่นมากเพราะถนนได้เปียกฝนยางก็แบน ผมไปต่อไม่ได้แล้วต้องจอด จากระยะทางที่เหลืออีกไม่ไกล ผมต้องตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนยางหรือแค่สูบลมแล้วไปต่อ ผมตัดสินอย่างรวดสูบลมแล้วไปต่อดีกว่า เพราะมันค่อยๆซึมออกถ้าผมเติมกลับไปให้แน่น ก็จะมีเวลาพอจนถึงยอด และอีกอย่างตอนนั้นก็มืดแล้วถ้ามีหนามคาที่ยางนอกอยู่ก็ใช่ว่าจะมองเห็นได้ง่ายๆ ผมสูบลมอย่างเร่งรีบ แต่สูบเท่าไหรก็ไม่แข็งสักที ผมรู้เลยเป็นเพราะสุบลมมีน้ำเข้าไปจากฝนที่ตกหนัก สูบนานไปกว่านี้ก็ไม่ได้แข็งขึ้น ผมบีบยางดูมันนิ่มมาก อย่าเสียเวลาสูบต่อเลย “เอาวะ! ไปมันแบบแบนๆนี่แหละเอาแรงเข้าสู่” เวลา19:11น. มาถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าด่านของอุทยานภูหินร่องกล้าเลี้ยวขวายอดภูทับเบิก ผมเลี้ยวขวาและไปให้เร็วที่สุดเพราะทุกนาทีที่เสียไปนั้นคือลมยางที่ลดลง แต่ทางช่วงนั้นก็ไม่ค่อยดีนักถ้าไปเร็วมากยางหลังที่อ่อนก็จะโดนกระแทกแตกได้ มาถึงช่วงสุดท้ายเนินหักขวาขึ้นยอด มีนักท่องเที่ยวเดินเต็มไปหมด ผมอยากจะตะโกนบอก “หลบหน่อยโว้ย…ยางกูจะหมดลมแล้ว” แต่ผมใช้เสียงหายใจที่แรงเป็นการเปิดทาง เสียงหายใจแรงๆจากการเร่งอัดขึ้นเขาดอกสุดท้ายได้ผล ผมไม่เสียจังหวะเลย เวลา19:24น. ผมก็พิชิตภูทับเบิกยอดเขาที่สูงที่สุดในเพชรบูรณ์ ได้สำเร็จ จากรังสิตด้วยเวลารวม15:26ชั่วโมง เวลาปั่น14:09ชั่วโมง
พาย เอกพงษ์ พงษ์ศรีหดุลชัย